ในบรรดาดาวเคราะห์ชั้นนอก เนปจูนคือดาวที่มนุษย์ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ผลของมันสัมผัสได้ในระดับจิตใจและจิตวิญญาณ มันคือดาวแห่งความฝัน ภาพลวง ความลี้ลับ และการหลอมรวมเข้าสู่มหาสมุทรแห่งจิตไร้สำนึก การค้นพบเนปจูนในปี ค.ศ. 1846 เกิดขึ้นในยุคที่โลกเต็มไปด้วยการปฏิวัติทางศิลปะ ดนตรี และปรัชญาโรแมนติก ซึ่งสอดคล้องอย่างน่าทึ่งกับธรรมชาติของเนปจูนที่เปี่ยมด้วยความละเอียดอ่อนและความลึกซึ้ง
Archetype ของเนปจูนคือ The Mystic และ The Dreamer ผู้ที่มองทะลุความจริงทางวัตถุไปสู่มิติที่สูงกว่า และผู้ที่กล้าหลับตาเพื่อฝันถึงโลกที่งดงามกว่า มันเป็นทั้งแรงบันดาลใจของศิลปิน กวี นักดนตรี และเป็นเสียงเรียกของนักบวชและผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ ทุกสิ่งที่เน้นความเป็นเอกภาพ การเสียสละ และการหลอมรวม ล้วนสะท้อนคุณสมบัติของเนปจูน
ด้านสว่างของเนปจูนคือความอ่อนโยน การเยียวยา ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อทุกชีวิต มันเปิดประตูสู่สภาวะที่เราไม่แยกตนเองออกจากผู้อื่น แต่รู้สึกว่าเราล้วนเป็นคลื่นหนึ่งในมหาสมุทรเดียวกัน พลังนี้ทำให้เกิดความเมตตา ความเสียสละ และแรงบันดาลใจทางศิลป์อันสูงส่ง แต่ด้านเงาคือความสับสน ภาพลวง และการหลีกหนีความจริง เมื่อพลังของเนปจูนถูกบิดเบือน มันอาจทำให้เราติดอยู่ในโลกแห่งฝันและการเสพติด ทั้งสารเสพติด ความเพ้อฝัน หรือแม้แต่การหลอกลวงตัวเอง
ในดวงชะตา เนปจูนบ่งบอกจุดที่เรามีความละเอียดอ่อน และแสวงหาความหมายสูงสุด เช่น เนปจูนในเรือนที่ 7 อาจหมายถึงการมองคู่รักด้วยแว่นแห่งอุดมคติ จนบางครั้งไม่เห็นข้อเท็จจริง เนปจูนในเรือนที่ 10 อาจทำให้เส้นทางอาชีพเกี่ยวพันกับศิลปะ ดนตรี หรือการเยียวยา แต่ก็อาจสร้างความสับสนว่าตนเองควรยืนอยู่ที่ใด สิ่งเหล่านี้คือบทเรียนที่เนปจูนมอบให้ เพื่อให้เราเรียนรู้การสร้างสมดุลระหว่างความฝันและความจริง
ในเชิง Jungian Archetype เนปจูนใกล้เคียงกับ The Mystic ผู้เชื่อมโยงมนุษย์กับความศักดิ์สิทธิ์ และ The Visionary ที่เห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ในด้านเงา มันคือ The Escapist ผู้หนีจากความจริง และ The Illusionist ผู้สร้างภาพลวง เนปจูนจึงเป็นพลังที่ต้องการการตระหนักรู้สูงสุด หากเราไม่รู้เท่าทัน มันอาจกลายเป็นม่านหมอกที่บดบังความจริง แต่หากเราใช้มันอย่างมีสติ มันจะเป็นสะพานสู่การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ
เนปจูนคือสัญลักษณ์ของ Oceanic Consciousness หรือการรับรู้ที่เราเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ความฝัน ศิลปะ และการทำสมาธิล้วนเป็นวิธีที่พลังนี้แสดงออก มันเตือนเราว่าเหนือความเป็นปัจเจก เรายังเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแห่งชีวิต ไม่มีเส้นแบ่งระหว่าง “ฉัน” และ “เธอ” มีเพียงการไหลเวียนที่ต่อเนื่องของพลังเดียวกัน
บทเรียนของเนปจูนคือการเรียนรู้ที่จะฝันโดยไม่หลง การเมตตาโดยไม่เสียศูนย์ และการแสวงหาความศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ละทิ้งโลกจริง หากเราสามารถนำความฝันมาแปรเป็นการกระทำที่จับต้องได้ เนปจูนจะกลายเป็นแรงบันดาลใจที่พาเราและผู้คนรอบข้างไปสู่การเยียวยาและการปลุกตื่น
“เนปจูนในดวงชะตาคือมหาสมุทรแห่งฝันและความศักดิ์สิทธิ์ มันอาจทำให้เราหลงในหมอกหรือปลุกให้เราเห็นความงามเหนือขอบเขตของโลกวัตถุ หากเราเลือกที่จะฝันด้วยสติ เนปจูนจะมอบพลังแห่งการเยียวยาและความเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว เราล้วนเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล”
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต