เมื่อ Carl Gustav Jung นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 พูดถึงคำว่า Archetype เขาหมายถึงแบบแผนดั้งเดิมของจิตใจมนุษย์ที่ฝังรากอยู่ในจิตไร้สำนึกร่วม (Collective Unconscious) มันคือสัญลักษณ์ดึกดำบรรพ์ที่ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเทพนิยาย ศาสนา ความฝัน และวัฒนธรรมทุกชนชาติ Jung ไม่ได้มองมนุษย์เป็นเพียงปัจเจก แต่เห็นว่าเราล้วนเชื่อมต่อกับรากจิตเดียวกันที่ใหญ่กว่าตัวตนส่วนบุคคล
หากมองผ่านสายตาของโหราศาสตร์ แต่ละดวงดาวก็ทำหน้าที่เป็น Archetype เช่นเดียวกัน ดวงอาทิตย์ไม่ได้เป็นแค่ก้อนพลังงานบนฟ้า แต่คือตัวแทนของ Archetype King หรือพลังของศูนย์กลางแห่งชีวิต ดาวจันทร์คือ Archetype Mother ผู้หล่อเลี้ยง ดาวศุกร์คือ Lover ผู้เชื่อมสัมพันธ์ด้วยความงดงาม ขณะที่ดาวอังคารคือ Warrior นักสู้ที่มุ่งมั่น เมื่อเราศึกษาดวงดาว เรากำลังทำความรู้จักกับบทบาทที่ซ่อนอยู่ในจิตใจมนุษย์
การเชื่อม Jung กับโหราศาสตร์ทำให้เราเห็นชัดว่า ดวงชะตาไม่ใช่คำทำนายลอย ๆ แต่คือแผนที่ของจิตใจ ที่แสดงว่า Archetype ใดในเรากำลังเด่นชัด กำลังท้าทาย หรือกำลังรอการพัฒนา เช่น หากดาวเสาร์เด่นในดวงชะตา มันอาจบอกว่า Archetype ของ Wise Old Man หรือผู้เฝ้ากฎเกณฑ์กำลังทำงานหนัก เราอาจเผชิญกับข้อจำกัด ความรับผิดชอบ หรือบทเรียนด้านวินัย ขณะเดียวกันหากเรารับมันอย่างมีสติ เราก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นคง
สิ่งที่สำคัญคือการทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า Archetype ไม่ใช่ตัวละครสมมติ แต่คือพลังงานจิตที่เราทุกคนมีอยู่แล้ว เพียงแต่บาง Archetype ทำงานมาก บาง Archetype ถูกกดไว้ และดวงดาวคือกระจกที่สะท้อนว่าพลังเหล่านี้กำลังเคลื่อนไหวอย่างไรในชีวิตเรา
Jung เองเคยกล่าวว่า “We are born at a given moment, in a given place, and like vintage years of wine, we have the qualities of the year and of the season in which we are born.” ซึ่งสอดคล้องกับแก่นของโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง นั่นคือ เวลาที่เราเกิดคือจังหวะที่ Archetype ทั้งหลายถูกประทับลงบนจิตวิญญาณเรา ดวงดาวในขณะนั้นคือเครื่องหมายบอกว่าพลังแบบใดกำลังเด่นชัดและจะเป็นหัวข้อชีวิตที่เรามาเรียนรู้
การเข้าใจดวงดาวในฐานะ Archetype ช่วยให้เรายอมรับความเป็นมนุษย์ได้ลึกขึ้น เช่น เราไม่ต้องโกรธอังคารในตัวเองที่ทำให้โมโหง่าย เพราะอังคารคือ Archetype นักรบที่ต้องการสนามฝึก เราไม่ต้องละอายต่อเนปจูนที่พาเราหลงฝัน เพราะนั่นคือ Archetype แห่ง Mystic ที่มอบความศรัทธาและแรงบันดาลใจ สิ่งที่ต้องทำคือหาทางสมดุล ให้ Archetype แต่ละตนได้ทำงานในระดับที่กลมกลืน
เมื่อเราศึกษาโหราศาสตร์ด้วยมุมมองแบบ Jungian เราจะเห็นว่าแผนที่ดวงชะตาเปรียบเสมือน ละครชีวิต ที่มีนักแสดง Archetype หลายตนขึ้นเวทีพร้อมกัน บางตัวเด่น บางตัวแฝง บางตัวโต้เถียงกัน และบางตัวรอเวลาจะปรากฏ แต่ทั้งหมดล้วนมีที่ทางของมันในเส้นทางการเติบโต หากเราเรียนรู้ที่จะรับฟัง เราจะสามารถเปลี่ยนการต่อสู้ภายใน ให้เป็นวงออร์เคสตราของจิตวิญญาณ ที่บรรเลงอย่างสอดคล้อง
ดวงดาวไม่ได้เป็นพลังบังคับเรา แต่เป็น ภาษาของ Archetype ที่บอกเล่าผ่านภาษาดวงดาวให้เรารู้จักตัวเองลึกขึ้น ทุกครั้งที่เราอ่านดวง เราไม่ได้แค่หาคำตอบว่าชีวิตจะไปทางไหน แต่เรากำลังทำความรู้จักกับบทบาทภายในที่ยังไม่ถูกใช้ การรู้จัก Archetype เหล่านี้คือการคืนสมดุลให้จิตใจ และการคืนสมดุลให้จิตใจคือการคืนสมดุลให้โลก
“เมื่อเรามองดวงดาวเป็น Archetype เราจะเข้าใจว่าไม่มีดาวใดเป็นศัตรู มีแต่บทบาทที่รอให้เรายอมรับและเรียนรู้ เพราะจักรวาลทั้งใบกำลังส่องกระจกสะท้อนจิตวิญญาณของเราเอง”
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต