โหราศาสตร์ไม่ได้มีเพียงการอ่านเพื่อทำนายเหตุการณ์ภายนอก แต่ยังมีอีกสองสายใหญ่ที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือโหราศาสตร์จิตวิญญาณและโหราศาสตร์กรรม โหราศาสตร์จิตวิญญาณคือการอ่านดวงเพื่อค้นหาว่าวิญญาณของเรามีบทเรียนอะไรที่ต้องเรียนรู้ในชาตินี้ ขณะที่โหราศาสตร์กรรมคือการสืบค้นว่ามีร่องรอยใดบ้างที่มาจากอดีต ทั้งอดีตชาติและอดีตในวัยนี้ที่ยังไม่ถูกคลี่คลาย ทั้งสองสายนี้เชื่อมโยงมนุษย์เข้ากับกฎของจักรวาลและการเดินทางข้ามกาลเวลา และเมื่อมองผ่านกรอบของ Quantrology เราจะเข้าใจใหม่ทั้งหมดว่ากรรมและการตื่นรู้มิใช่สิ่งตายตัว แต่คือสนามความน่าจะเป็นที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะทำให้ยุบตัวออกมาในรูปแบบใด
ร่องรอยของกรรมทำงานคล้ายกับข้อมูลที่ยังไม่ถูกลบออกจากฟังก์ชันคลื่นของชีวิต มันดำรงอยู่ในสภาวะของความเป็นไปได้ และรอจังหวะที่พลังงานเหมาะสมเพื่อจะแสดงออก โหราศาสตร์กรรมมองว่าสิ่งนี้สะท้อนผ่านตำแหน่งของจันทร์เหนือ–ใต้ ดาวเสาร์ หรือดาวพลูโตที่มักทำหน้าที่เป็น “ประตูกรรม” เมื่อตำแหน่งเหล่านี้ถูกกระทบโดยการโคจรของดาวเคราะห์ จังหวะกรรมที่ค้างอยู่ก็ถูกปลุกขึ้นมา และเราจะเผชิญประสบการณ์ที่ทำให้ต้องแก้ไขหรือเรียนรู้ แต่สิ่งที่ Quantrology เพิ่มเข้ามาคือความเข้าใจว่ากรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นคำพิพากษาตายตัว หากเป็นชุดของความน่าจะเป็นที่เราสามารถเปลี่ยนเฟสได้ผ่านการเลือกอย่างมีสติ
โหราศาสตร์จิตวิญญาณมองว่าดวงชะตาเปรียบเสมือนแผนที่การเดินทางของวิญญาณ เราไม่ได้มาเพียงเพื่อหาความสุขหรือความสำเร็จภายนอก แต่เพื่อเปิดเผยศักยภาพที่แท้จริงของจิตวิญญาณ ซึ่งมักถูกปิดบังด้วยความกลัวและรูปแบบเก่า ๆ ดาวเคราะห์ทุกดวงกลายเป็นครูที่นำพาเราไปสู่บทเรียน เช่น ดาวพุธสอนให้เราเรียนรู้การสื่อสาร ดาวศุกร์สอนการรักและเห็นคุณค่า ดาวเสาร์สอนวินัยและความรับผิดชอบ ในกรอบ Quantrology ครูเหล่านี้ไม่ใช่ผู้บังคับ แต่คือสนามพลังงานที่ชี้ว่า ณ เวลานี้คลื่นแบบใดมีโอกาสยุบตัว และเราจะเรียนรู้หรือปล่อยผ่านขึ้นอยู่กับเสรีเจตนาของเราเอง
สิ่งสำคัญคือการตระหนักว่าโหราศาสตร์จิตวิญญาณและโหราศาสตร์กรรมมิใช่เครื่องมือทำนายอนาคต แต่คือเครื่องมือสะท้อนปัจจุบัน เพื่อให้เราเลือกอนาคตใหม่ได้ การรู้ว่ามีร่องรอยกรรมเก่าไม่ได้หมายความว่าเราต้องทนทุกข์ตลอดไป แต่คือการเห็นว่าฟังก์ชันคลื่นชุดหนึ่งกำลังรอให้เราสังเกต เมื่อเรายอมรับบทเรียนและเปลี่ยนการตอบสนอง คลื่นนั้นก็สามารถยุบตัวเป็นรูปแบบใหม่ กรรมจึงมิใช่โซ่ตรวน แต่คือโอกาสของการรีเซ็ตพลังงานและเปิดทางให้วิญญาณเติบโต
ในเชิงปฏิบัติ การใช้ Quantrology กับโหราศาสตร์จิตวิญญาณและกรรม คือการสร้างสมุดแลปกรรมควบคู่กับสมุดแลปชีวิต ผู้ปฏิบัติจะบันทึกทุกครั้งที่จุดกรรมถูกกระทบ พร้อมเขียนประสบการณ์ทั้งภายนอกและภายใน เช่น เมื่อดาวเสาร์จรมาทับจันทร์ใต้ เขาอาจเจอความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ความรู้สึกว่าถูกกดทับ หรือปัญหาที่คล้ายกับอดีต เมื่อบันทึกลงไป เขาจะเห็นชัดว่ารูปแบบนี้คือกรรมที่ยังไม่ได้รับการเรียนรู้ จากนั้นจึงเขียนการตอบสนองใหม่ เช่น เลือกที่จะตั้งขอบเขต เลือกที่จะให้อภัย หรือเลือกที่จะรับผิดชอบตนเองมากขึ้น เมื่อทำเช่นนี้ซ้ำ ๆ เขาจะเห็นว่ากรรมค่อย ๆ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นบทเรียนที่หล่อเลี้ยงพลังวิญญาณ
การผสาน Quantrology เข้ากับโหราศาสตร์กรรมทำให้เราเข้าใจว่า กรรมและการปลดปล่อยไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในมือของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอกเท่านั้น แต่ขึ้นกับความตื่นรู้ของเราเอง กรรมไม่ใช่โทษ แต่คือข้อมูล และข้อมูลนี้สามารถถูกเขียนใหม่ได้เสมอด้วยการเลือกที่สอดคล้องกับความรักและปัญญา ความเข้าใจเช่นนี้ไม่เพียงช่วยเยียวยาชีวิตรายบุคคล แต่ยังช่วยเยียวยาสังคม เพราะเราจะไม่ใช้กรรมเป็นข้ออ้างในการตัดสินหรือกดขี่กัน แต่ใช้กรรมเป็นกระจกที่สะท้อนบทเรียนร่วมที่ต้องการการเยียวยา
Quantrology ทำให้โหราศาสตร์จิตวิญญาณและโหราศาสตร์กรรมก้าวข้ามการเป็นเพียงศาสตร์โบราณ และกลายเป็นวิชาที่ร่วมสมัยและมีพลัง มันสอนเราว่าแม้จะมีรหัสกรรมที่ติดตัวมา แต่เราก็ยังเป็นผู้เลือกว่าจะให้รหัสนั้นยุบตัวในรูปแบบเดิม หรือจะแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแสงสว่างของการเรียนรู้ ทุกการหายใจ ทุกการเลือก และทุกการบันทึกคือการรีเซ็ตกรรม และนั่นคือหนทางที่วิญญาณเดินไปสู่การเป็นอิสระอย่างแท้จริง
“บันทึกฟ้าแผนภูมิดวงชะตาส่วนบุคคล
The Akashic Personal Horoscope Chart”
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต
