จักรราศีสิบสองราศีไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ประดับบนดวงชะตา แต่คือวงล้อของการเรียนรู้ที่วิญญาณต้องหมุนผ่านในทุกชาติภพ แต่ละราศีคือห้องเรียนที่สอนบทเรียนแตกต่างกัน กรรมจึงถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเฉพาะเมื่อผ่านราศีนั้น ๆ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีสีสันและความหมาย
ราศีเมษ คือต้นทางแห่งการเกิดใหม่ พลังของเมษคือความกล้า การเริ่มต้น และการประกาศตัวตน กรรมที่มาพร้อมเมษมักเกี่ยวกับการใช้พลังอย่างไม่ระวัง หรือการยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง วิญญาณที่มีเมษเด่นต้องเรียนรู้ที่จะใช้พลังขับเคลื่อนเพื่อสร้าง ไม่ใช่ทำลาย
ราศีพฤษภ คือบทเรียนเรื่องคุณค่า ความมั่นคง และความสุขจากสิ่งที่จับต้องได้ กรรมของพฤษภมักเกี่ยวกับการยึดติดในวัตถุ ความสะดวกสบาย หรือความกลัวที่จะสูญเสีย สิ่งที่วิญญาณต้องเรียนรู้คือการรู้คุณค่าที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงสิ่งที่เป็นทรัพย์ภายนอก
ราศีมิถุน คือห้องเรียนของการสื่อสารและความคิด กรรมในมิถุนมักเกี่ยวกับการใช้คำพูดผิดทาง การบิดเบือน หรือความฟุ้งซ่าน วิญญาณที่ต้องเรียนรู้ผ่านมิถุนจึงต้องพัฒนาความสามารถในการฟัง และใช้ถ้อยคำเป็นสะพานเชื่อม ไม่ใช่กำแพงกั้น
ราศีกรกฎ คือรังแห่งความทรงจำและครอบครัว กรรมที่มักมาปรากฏที่นี่คือความผูกพันกับรากเหง้า ความกลัวการถูกทอดทิ้ง หรือการแบกรับภาระครอบครัวเกินไป การเรียนรู้ของกรกฎคือการสร้างความปลอดภัยในใจตนเอง ไม่ใช่เพียงจากภายนอก
ราศีสิงห์ คือเวทีของหัวใจและการแสดงออก กรรมของสิงห์มักเกี่ยวข้องกับความหลงตัวเอง ความต้องการการยอมรับ หรือการใช้อำนาจเกินขอบเขต สิ่งที่วิญญาณเรียนรู้ผ่านสิงห์คือการสร้างจากหัวใจแท้จริง ไม่ใช่เพื่อเอาชนะสายตาคนอื่น
ราศีกันย์ คือบทเรียนเรื่องการปรับปรุงและการรับใช้ กรรมที่มากับกันย์คือความสมบูรณ์แบบ ที่ทำให้เราจมอยู่กับรายละเอียดเกินไป หรือการวิจารณ์ผู้อื่นอย่างไม่รู้ตัว วิญญาณที่ต้องผ่านกันย์จึงถูกเรียกให้เรียนรู้ความเมตตาผ่านการบริการที่แท้จริง
ราศีตุลย์ คือบทเรียนของความสมดุลและความสัมพันธ์ กรรมของตุลย์คือการพึ่งพาความสัมพันธ์มากเกินไป หรือการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง วิญญาณต้องเรียนรู้ว่าความสมดุลไม่ได้มาจากการยอมเพียงฝ่ายเดียว แต่จากการพบกันครึ่งทางอย่างแท้จริง
ราศีพิจิก คือห้องเรียนของการเปลี่ยนแปลง กรรมในพิจิกมักหนักและเข้มข้น อาจเป็นเรื่องการสูญเสีย ความลับ หรือการครอบครอง วิญญาณที่ผ่านพิจิกต้องเรียนรู้การตายและเกิดใหม่ในทางใจ การปล่อยวางคือกุญแจที่ทำให้พลังของพิจิกกลายเป็นการเยียวยา
ราศีธนู คือการเดินทางและการแสวงหาความจริง กรรมที่มากับธนูคือการหลงในความเชื่อ การใช้เสรีภาพอย่างไม่รับผิดชอบ หรือการสอนสิ่งที่ยังไม่ได้เรียนรู้จริง ๆ วิญญาณที่ผ่านธนูต้องเรียนรู้ว่าความจริงไม่ได้อยู่ไกล แต่ซ่อนอยู่ในประสบการณ์ตรงของตน
ราศีมกร คือบทเรียนของความรับผิดชอบและโครงสร้าง กรรมในมกรมักเกี่ยวกับการยึดติดกับอำนาจ สถานะ หรือการทำงานเกินไปจนลืมชีวิต วิญญาณที่เรียนรู้ผ่านมกรถูกเรียกให้สร้างความมั่นคงอย่างมีหัวใจ ไม่ใช่เพียงการปีนขึ้นไปบนยอดสูงสุด
ราศีกุมภ์ คือบทเรียนเรื่องอิสระและความเป็นมนุษยชาติ กรรมของกุมภ์คือการต่อต้านเพียงเพื่อความต่าง หรือการแยกตัวจากผู้อื่นจนโดดเดี่ยว สิ่งที่ต้องเรียนรู้คือการใช้ความคิดใหม่เพื่อยกระดับโลก ไม่ใช่เพื่อสร้างกำแพงแยกเราออกมา
ราศีมีน คือปลายทางของจักรราศี วงล้อที่พาเรากลับสู่มหาสมุทรของจิตวิญญาณ กรรมที่มักมาพร้อมมีนคือความสับสน การหลีกหนี หรือการเสียสละจนลืมตัวตน บทเรียนของวิญญาณที่ผ่านมีนคือการเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่หลงละลายในภาพลวงตา
ทั้งสิบสองราศีจึงเปรียบเหมือนบันไดที่วิญญาณต้องก้าวขึ้นทีละขั้น กรรมที่เราพบไม่ได้เป็นโทษ แต่เป็นบทเรียนที่พาเราไปสูงขึ้นเสมอ การเข้าใจว่าแต่ละราศีกำลังสอนอะไรทำให้เราเห็นชัดขึ้นว่าทำไมเหตุการณ์ต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น และเราควรเรียนรู้อะไรจากมัน
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต










