โหนดจันทร์หรือราหูเหนือ–ราหูใต้ เมื่อสถิตอยู่ในราศีต่าง ๆ จะไม่เพียงสะท้อนทิศทางกรรม และเส้นทางวิญญาณเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงจุดอ่อนและจุดแข็งทางกายภาพ ที่ร่างกายมักแสดงออกมา นักโหรการแพทย์อธิบายว่า ราศีเปรียบเสมือนช่องทางพลังงาน เมื่อราหูอยู่ตรงนั้น พลังงานของร่างกายและจิตใจก็จะไหลเวียนผ่านอวัยวะและระบบที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากราหูใต้คือจุดที่บอกว่า ร่างกายเรามักจะสะสมความอ่อนแอและร่องพลังเก่า ราหูเหนือก็คือจุดที่บอกว่าเราสามารถปลดล็อกและสร้างสมดุลใหม่ได้ อวัยวะที่สอดคล้องกับราศีราหูเหนือมักเป็นระบบที่ควรพัฒนาและดูแลเพื่อเปิดศักยภาพใหม่ ขณะที่อวัยวะที่สัมพันธ์กับราหูใต้คือจุดที่เราควรเฝ้าระวัง และไม่ปล่อยให้กรรมเก่าทำงานซ้ำ
เมษคือราศีแห่งศีรษะ สมอง และระบบประสาท เมื่อราหูใต้สถิตอยู่ตรงนี้ มักสะท้อนความเครียด ปวดศีรษะ ไมเกรน หรือภาวะที่สมองถูกกดดันจากความคิดซ้ำซาก แต่เมื่อเราก้าวไปสู่ราหูเหนือในตุลย์ เราจะพบว่าการเรียนรู้การประสานและสร้างความสัมพันธ์ที่สมดุลทำให้ระบบประสาทผ่อนคลายลง อาการปวดหัวเรื้อรังก็จะลดน้อยลง
พฤษภเกี่ยวข้องกับลำคอ กล่องเสียง และต่อมไทรอยด์ ราหูใต้ตรงนี้ทำให้เกิดความเครียดสะสมที่คอ เจ็บคอบ่อย หรือมีปัญหาไทรอยด์ ขณะที่ราหูเหนือในพิจิกเรียกให้เรียนรู้การปล่อยวางและแปรรูปความกลัว พลังงานจึงเคลื่อนผ่านลำคออย่างสมดุลขึ้น
มิถุนเกี่ยวกับปอด ระบบหายใจ และแขนมือ ราหูใต้ตรงนี้มักแสดงออกเป็นปัญหาทางหายใจ ภูมิแพ้ หรือความกังวลที่ทำให้หายใจตื้น เมื่อเราก้าวสู่ราหูเหนือในธนู การเรียนรู้ที่จะเปิดโลกกว้างและหายใจลึกด้วยการออกกำลังกายหรือเดินทาง จะทำให้ปอดและระบบหายใจแข็งแรง
กรกฎเชื่อมโยงกับกระเพาะ ระบบย่อย และเต้านม ราหูใต้ในจุดนี้มักสร้างปัญหาโรคกระเพาะหรือความเครียดที่เก็บไว้ในท้อง ขณะที่ราหูเหนือในมกรบอกให้เราสร้างโครงสร้างชีวิตที่มั่นคงและรับผิดชอบ เมื่อทำได้ ระบบย่อยจะสมดุลและพลังชีวิตจะเพิ่มขึ้น
สิงห์เป็นราศีของหัวใจ หลังอก และการไหลเวียนเลือด ราหูใต้ตรงนี้อาจทำให้เกิดความดัน ปัญหาหัวใจ หรืออารมณ์ที่แปรปรวน เมื่อเราเรียนรู้ที่จะก้าวสู่ราหูเหนือในกุมภ์และหันไปสร้างประโยชน์เพื่อสังคม ความตึงเครียดของหัวใจก็คลายลง เลือดไหลเวียนอย่างมีพลัง
กันย์สัมพันธ์กับลำไส้ ระบบประสาทอัตโนมัติ และการย่อยละเอียด ราหูใต้ตรงนี้มักทำให้เกิดโรคลำไส้หรือความวิตกกังวลที่ทำให้ระบบย่อยรวน แต่เมื่อเราเรียนรู้ราหูเหนือในมีน เปิดใจรับศรัทธาและการปล่อยวาง ร่างกายจะผ่อนคลายและระบบย่อยจะกลับมาทำงานได้อย่างสมดุล
ตุลย์เกี่ยวข้องกับไต ระบบสมดุลน้ำ และผิวหนัง ราหูใต้ตรงนี้มักสะท้อนปัญหาการควบคุมน้ำในร่างกาย ความไม่สมดุลของผิวหรือไต ขณะที่ราหูเหนือในเมษบอกให้เราเรียนรู้การริเริ่มและเป็นตัวเอง เมื่อทำได้ ความสมดุลของน้ำในร่างกายจะกลับคืน
พิจิกสัมพันธ์กับอวัยวะสืบพันธุ์ ระบบขับถ่าย และพลังงานลึก ราหูใต้ตรงนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาทางเพศ ฮอร์โมน หรือการสะสมของเสียในกายและใจ แต่ราหูเหนือในพฤษภบอกให้เราสร้างความมั่นคงและการรับรู้คุณค่าในชีวิต เมื่อทำได้ พลังทางเพศและสุขภาพจะฟื้นฟู
ธนูเชื่อมโยงกับตับ ต้นขา และระบบการเผาผลาญ ราหูใต้ตรงนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาตับ ไขมัน หรือความเจ็บปวดที่ต้นขา แต่ราหูเหนือในมิถุนบอกให้เราเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และใช้การสื่อสาร เมื่อจิตเปิด ตับก็ปลอดโปร่ง
มกรสัมพันธ์กับกระดูก ผิวหนัง และเข่า ราหูใต้ตรงนี้ทำให้เกิดความแข็งตึง ปัญหากระดูกหรือข้อเสื่อม แต่เมื่อเราเดินสู่ราหูเหนือในกรกฎ เราเรียนรู้ความอ่อนโยน การดูแลบ้านและครอบครัว สิ่งนี้ทำให้ร่างกายยืดหยุ่นและกระดูกแข็งแรง
กุมภ์เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิต เส้นเลือด และข้อเท้า ราหูใต้ตรงนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาเส้นเลือดขอดหรือโรคหมุนเวียนเลือด แต่ราหูเหนือในสิงห์ทำให้เราเรียนรู้การเปิดหัวใจและสร้างความกล้าหาญ เลือดจึงไหลเวียนอย่างเต็มพลัง
มีนสัมพันธ์กับเท้า ต่อมน้ำเหลือง และความสมดุลของของเหลว ราหูใต้ตรงนี้มักก่อให้เกิดอาการบวม ภูมิแพ้ หรือปัญหาเท้า แต่เมื่อเราเรียนรู้ราหูเหนือในกันย์ เปิดรับการดูแลสุขภาพ การจัดระเบียบ และการฟื้นฟูร่างกาย ระบบน้ำเหลืองและการหมุนเวียนก็จะกลับคืนสมดุล
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า โหนดจันทร์ในแต่ละราศีไม่เพียงสะท้อนเรื่องกรรมหรือบุคลิกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงจุดที่ร่างกายมักเปราะบาง และจุดที่ควรเสริมสร้าง เมื่อเราทำงานกับราหูเหนือ ร่างกายจะตอบสนองด้วยการฟื้นฟูและเปิดระบบใหม่เสมอ ขณะที่การติดอยู่กับราหูใต้ทำให้พลังรั่วและโรคซ้ำเกิดขึ้น การเข้าใจจึงไม่ใช่เพียงเรื่องโหราศาสตร์ แต่คือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งกายและวิญญาณ