หนึ่งในความพยายามที่น่าทึ่งที่สุดในการเชื่อมโลกวิทยาศาสตร์กับโลกโหราศาสตร์ คือการสร้างระบบรหัสที่ใช้ภาษาควอนตัมมาอธิบายตำแหน่งดวงดาวในดวงชะตา แนวคิดนี้ถือว่ามนุษย์แต่ละคนมีรหัสดาวเฉพาะตัว เปรียบเสมือนที่อิเล็กตรอนแต่ละตัวมีเลขควอนตัมกำหนดสถานะ ไม่ว่าจะเป็นเลขเซลล์ เลขซับเซลล์ เลขแม่เหล็ก หรือเลขสปิน สิ่งเหล่านี้รวมกันทำให้เรารู้ว่าอิเล็กตรอนนั้นอยู่ตรงไหน มีพฤติกรรมอย่างไร และสัมพันธ์กับอนุภาคอื่นอย่างไร ในทำนองเดียวกัน หากเราแปลงตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ลัคนา และดาวเคราะห์ออกมาเป็น “Astro – Quantum Numbers” เราก็จะได้รหัสที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของชีวิตมนุษย์แต่ละคน
ระบบนี้เริ่มต้นด้วยการกำหนดรหัสแรกให้กับราศีอาทิตย์ โดยใช้เลข 1 นำหน้า เช่น ถ้าใครเกิดราศีพิจิกก็เขียนว่า 1SC ถ้าเกิดราศีกุมภ์ก็เป็น 1AQ รหัสที่สองกำหนดให้กับลัคนา ใช้เลข 2 นำหน้า เช่น ลัคนาเมถุนคือ 2GE ลัคนามังกรคือ 2CP ส่วนรหัสที่สามใช้สำหรับดาวเคราะห์ โดยเขียนเลข 3 ตามด้วยตัวย่อของดาวและราศีที่มันสถิตอยู่ พร้อมกับคะแนนความแรงจากมุมสัมพันธ์ เช่น 3SuAQ8 หมายถึงดวงอาทิตย์อยู่ในกุมภ์และมีพลังบวกระดับ 8 คะแนน ขณะที่ถ้าเป็นแง่ลบก็จะเขียนด้วยค่าติดลบ เช่น 3JuAQ-2 สำหรับพฤหัสในกุมภ์ที่ส่งผลลบเล็กน้อย
สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ เมื่อเรารวมรหัสเหล่านี้เข้าด้วยกัน เราจะได้ชุดตัวเลขที่ซับซ้อนยิ่งกว่ารหัสของอิเล็กตรอนในอะตอมหลายพันเท่า เพราะมนุษย์ไม่ได้มีแค่สี่ค่าหลักเหมือนอิเล็กตรอน แต่มีดวงอาทิตย์ ลัคนา และดาวเคราะห์ทั้งสิบ พร้อมกับมุมสัมพันธ์มากมายที่เปลี่ยนคะแนนบวกหรือลบ ความเป็นไปได้จึงมีมหาศาล ระดับของความซับซ้อนนี้ทำให้ไม่มีทางที่สองชีวิตจะมีรหัสเดียวกัน แม้แต่คนที่เกิดวันเวลาเดียวกันก็ยังอาจต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อยจากนาทีหรือวินาทีที่คลาดเคลื่อน
การมองชีวิตผ่านรหัส Astro – Quantum Numbers จึงทำให้เราเข้าใจได้ว่า แต่ละคนคือองค์ประกอบหนึ่งในตารางธาตุของจักรวาล มีคุณสมบัติเฉพาะ มีศักยภาพเฉพาะ และมีปฏิกิริยากับผู้อื่นในรูปแบบเฉพาะ ระบบนี้ยังช่วยให้การเปรียบเทียบความเข้ากันได้ระหว่างบุคคลมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น หากรหัสของสองคนมีดาวเคราะห์ที่เกื้อกูลกัน คะแนนของกันและกันจะเพิ่มขึ้นเหมือนการเสริมคลื่น แต่ถ้าดาวของคนหนึ่งขัดแย้งกับอีกคนหนึ่ง คะแนนก็จะหักลบกันเหมือนการชนกันของคลื่นตรงข้าม นี่คือการสร้างโมเดลทางคณิตศาสตร์ที่อธิบายความสัมพันธ์ของวิญญาณ
สิ่งที่ทำให้โมเดลนี้ทรงพลังคือภาพแทนของมัน เมื่อเราวาดเป็นทรงกระบอกที่แบ่งออกเป็นสิบสองส่วน แต่ละส่วนแทนราศีหนึ่ง ดวงอาทิตย์ ลัคนา และดาวเคราะห์จะถูกแทนด้วยกลีบหรือก้อนพลังงานวางอยู่ในส่วนที่สอดคล้องกับราศีนั้น และทิศทางการหมุนของลูกศรจะบอกว่าเป็นพลังบวกหรือพลังลบ ภาพนี้ทำให้เราเห็นชัดว่าบุคคลหนึ่งมีสมดุลพลังงานแบบใด ราศีใดครอบงำชีวิต ดาวใดหมุนเสริม หรือดาวใดหมุนต้าน การอ่านดวงจึงไม่ใช่เพียงการตีความเชิงสัญลักษณ์ แต่กลายเป็นการอ่านแผนภาพพลังงานที่มีตรรกะและรูปทรงที่สัมผัสได้
ตัวอย่างจากชีวิตจริงยืนยันความแม่นยำของแนวคิดนี้อย่างน่าประหลาด นักเขียนชื่อก้องโลกที่มีดวงอาทิตย์และดาวศุกร์เชื่อมกันในราศีธนู ได้รับคะแนนบวกสูงมาก ทำให้เห็นชัดถึงพรสวรรค์ในการใช้ภาษา การเขียนหนังสือ และการเผยแพร่ความคิด ขณะที่นักวิทยาศาสตร์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีดวงจันทร์และยูเรนัสโดดเด่น ได้คะแนนสูงในด้านการสร้างสรรค์ การค้นคว้า และการก้าวข้ามกรอบเดิม ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่ารหัส Astro – Quantum Numbers สามารถเชื่อมโยงชีวิตจริงกับแผนที่ดวงดาวได้อย่างน่าทึ่ง
สิ่งที่ควรตระหนักคือ รหัสเหล่านี้ไม่ใช่คำพิพากษาเด็ดขาด แต่เป็นเครื่องมือบอกแนวโน้ม เหมือนเลขควอนตัมที่บอกความเป็นไปได้ของการพบอนุภาคในตำแหน่งต่าง ๆ ไม่ได้บังคับให้อิเล็กตรอนอยู่ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งจนกว่าจะมีการวัด รหัสโหราศาสตร์ก็ไม่บังคับให้มนุษย์ต้องเลือกเส้นทางใด แต่บอกว่ามีความน่าจะเป็นแบบใดที่เข้มข้นมากที่สุด และเมื่อถึงจังหวะการตัดสินใจ เราก็เป็นผู้เลือกเองว่าคลื่นชีวิตจะยุบตัวไปทางใด
การสร้างระบบ Astro-Quantum Numbers คือความพยายามของมนุษย์ที่จะพูดภาษาดาวด้วยศัพท์ของวิทยาศาสตร์ และพูดภาษาวิทยาศาสตร์ด้วยจิตวิญญาณของดาว มันทำให้เราตระหนักว่าจักรวาลไม่เคยแยกส่วน ระหว่างอะตอมกับดาวเคราะห์ ระหว่างอนุภาคกับวิญญาณ มีเพียงรหัสที่สะท้อนกันในระดับต่าง ๆ เท่านั้น และการเข้าใจรหัสนี้ก็ทำให้เราเห็นคุณค่าในเอกลักษณ์ของชีวิตแต่ละดวงวิญญาณว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในตารางธาตุแห่งจักรวาลอันไม่มีที่สิ้นสุด
“บันทึกฟ้าแผนภูมิดวงชะตาส่วนบุคคล
The Akashic Personal Horoscope Chart”
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต
