หากมีดาวเคราะห์ดวงใดที่เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความตาย และการเกิดใหม่ ดาวนั้นก็คือพลูโต ดาวเคราะห์แคระที่โคจรช้าที่สุด แต่กลับทรงอิทธิพลที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับลึกทั้งปัจเจกและมวลรวม พลังของมันไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหมือนดวงจันทร์หรือดาวศุกร์ แต่เรารับรู้ถึงแรงสะเทือนของมันได้ในทุกครั้งที่ชีวิตพังทลายและกลับฟื้นขึ้นมาใหม่
Archetype ของพลูโตคือ The Transformer และ The Alchemist ผู้ทำลายสิ่งเก่าเพื่อให้สิ่งใหม่ถือกำเนิด และผู้เปลี่ยนแปลงโลหะหยาบให้กลายเป็นทองคำจิตวิญญาณ ในตำนานกรีก พลูโตคือ Hades เทพเจ้าแห่งบาดาล ผู้ครอบครองพลังอำนาจอันมืดมนและสมบูรณ์ สิ่งนี้สะท้อนพลังที่กดดันและดึงลึกเข้าสู่เงามืดของเรา เพื่อให้เราเผชิญหน้ากับสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้
ด้านสว่างของพลูโตคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง การฟื้นฟู และการปลุกพลังชีวิตใหม่ มันคือพลังที่ทำให้เรากล้าลงไปในความมืดเพื่อดึงเพชรแท้ออกมา แต่ด้านเงาคือการครอบงำ การทำลายล้าง และการใช้พลังอำนาจเพื่อควบคุมผู้อื่น หากเราไม่ตระหนัก พลูโตจะปรากฏเป็นประสบการณ์ที่รุนแรง เช่น การสูญเสีย การพลัดพราก หรือวิกฤติที่ทำให้ชีวิตพังครืน แต่หากเราเรียนรู้ มันจะเผยด้านที่แท้จริง คือพลังแห่งการเกิดใหม่
ในดวงชะตา พลูโตชี้ถึงพื้นที่ที่เราจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงรุนแรงที่สุด เช่น พลูโตในเรือนที่ 4 อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงรากฐานครอบครัวหรือบ้าน พลูโตในเรือนที่ 10 มักสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงอาชีพหรืออำนาจสาธารณะ และไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใด มันบ่งบอกถึงความจำเป็นที่เราจะต้องตายทางสัญลักษณ์ในด้านนั้น เพื่อที่จะเกิดใหม่อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม
ในมุม Jungian Archetype พลูโตคือพลังของ The Shadow และ The Underworld Guide มันคือ Archetype ที่ผลักเราให้เผชิญหน้ากับสิ่งที่เราพยายามกดไว้ในจิตใต้สำนึก ไม่ว่าจะเป็นความกลัว แรงขับ หรือความเจ็บปวด เพื่อให้เรายอมรับและหลอมรวมพลังเหล่านั้นเข้าสู่ตัวตนที่แท้จริง Jung เคยกล่าวว่าการเผชิญเงามืดคือหนทางเดียวที่จะบรรลุความสมบูรณ์ และนั่นคือสิ่งที่พลูโตทำ
ในระดับจิตวิญญาณ พลูโตคือประตูสู่การตื่นรู้ขั้นสูง เพราะมันทำลายอัตตาที่เรายึดถือ พลังของมันคือการสลายโครงสร้างเก่าเพื่อเผยแก่นแท้แห่งวิญญาณ จึงไม่แปลกที่ช่วงเวลาที่พลูโตเคลื่อนเข้ามาในชีวิตใคร มักมีประสบการณ์ “ตายแล้วเกิดใหม่” อยู่เสมอ อาจเป็นการสูญเสียที่เจ็บปวด หรือการตระหนักรู้ที่เปลี่ยนชีวิตอย่างสิ้นเชิง แต่ในที่สุดสิ่งเหล่านี้คือการคืนพลังให้กับดวงวิญญาณ
พลูโตยังเกี่ยวพันกับพลังบ่มเพาะและการกู้พลังส่วนบุคคลจากการครอบงำภายนอก หากเรายอมจำนนต่อการควบคุม เราจะสูญเสียพลังให้กับเงามืด แต่หากเราเผชิญหน้ากับมัน เราจะได้คืนพลังที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่พลังในการครอบงำใคร แต่คือพลังในการครองตนเอง
บทเรียนของพลูโตคือการเรียนรู้ที่จะยอมตายเพื่อเกิดใหม่ มันบอกเราว่าไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป โครงสร้างที่เรายึดถือสุดท้ายต้องพัง แต่ในความพังนั้นมีเมล็ดพันธุ์แห่งการสร้างสรรค์ซ่อนอยู่เสมอ พลูโตสอนให้เรายอมรับความมืด เพราะความมืดคือมดลูกที่โอบอุ้มการเกิดใหม่ทุกครั้ง
“พลูโตในดวงชะตาคือครูแห่งการตายและการเกิดใหม่ มันอาจทำลายทุกสิ่งที่เรายึดถือ แต่เพื่อปลุกพลังแท้จริงของวิญญาณ หากเรากล้าลงไปในเงามืด เราจะกลับขึ้นมาพร้อมแสงสว่างที่ไม่มีสิ่งใดดับได้อีกต่อไป”
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต