ในบรรดาดาวเคราะห์ชั้นนอก เนปจูนคือดาวที่เข้าใจยากที่สุด มันเชื่อมโยงกับความฝัน จินตนาการ ศรัทธา และความเป็นหนึ่งเดียว แต่ในอีกด้านหนึ่งมันก็สัมพันธ์กับความสับสน มายา และการหลงผิด เนปจูนจึงเป็นทั้งประตูสู่สวรรค์และม่านหมอกที่บดบังสายตา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำงานกับพลังของมันด้วยสติหรือไม่
เนปจูนคือพลังแห่งการละลาย มันทำลายเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างตัวตนกับผู้อื่น ระหว่างความจริงกับความฝัน และระหว่างโลกวัตถุกับโลกวิญญาณ ผลที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกเชื่อมโยงกับทุกสิ่ง หรือในทางกลับกัน ความสับสนว่าอะไรคือของจริงและอะไรคือภาพลวง ตำแหน่งของเนปจูนในดวงชะตาจึงแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ใดในชีวิตเรามีความเสี่ยงต่อการสับสน แต่ก็เป็นพื้นที่ที่เราสามารถเข้าถึงความจริงในระดับสูงได้เช่นกัน
เนปจูนคือบทเรียนเรื่อง การมองผ่านม่านมายา ทุกครั้งที่เรายึดติดกับภาพลักษณ์หรือความคาดหวังที่ไม่จริง เนปจูนจะทำให้สิ่งนั้นพังทลายไป เพื่อบังคับให้เราเห็นความจริงที่อยู่เบื้องหลัง มันอาจทำให้เราผิดหวังหรือเจ็บปวด แต่ท้ายที่สุดคือการปลดปล่อยจากสิ่งที่ไม่แท้จริง และเมื่อม่านหมอกสลาย เราจะสัมผัสความจริงที่ลึกกว่า—ความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
เนปจูนยังเกี่ยวข้องกับศิลปะ ดนตรี และความฝัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นช่องทางที่วิญญาณสามารถสื่อสารกับโลกวัตถุได้โดยตรง มันคือพลังแห่งแรงบันดาลใจที่พาเราหลุดจากตรรกะและเหตุผล ไปสัมผัสความงามในระดับที่เกินคำอธิบาย แต่การจะใช้พลังนี้อย่างสร้างสรรค์ เราต้องไม่จมอยู่กับมันจนหลงลืมโลกจริง
การทำงานกับเนปจูนจึงไม่ใช่การหนีเข้าสู่โลกแห่งฝัน แต่คือการเรียนรู้ที่จะนำแรงบันดาลใจและความเมตตาที่เนปจูนมอบ มาแปลงเป็นการกระทำจริงบนโลก มันสอนว่า “การตื่นรู้ไม่ได้อยู่แค่ในความฝันหรือการหลีกหนี แต่เกิดขึ้นเมื่อเรานำความเป็นหนึ่งเดียวมาสู่การใช้ชีวิตประจำวัน”
เนปจูนคือดาวแห่งความฝันและศรัทธาที่สามารถนำเราไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียว หรือดึงเราลงสู่ความสับสน มันคือครูที่สอนให้เรามองผ่านมายา เห็นความจริงที่อยู่เบื้องหลัง และนำแรงบันดาลใจกลับมาใช้ในชีวิตจริง การตื่นรู้จากพลังเนปจูนคือการเปลี่ยนภาพฝันให้กลายเป็นความจริงที่หล่อเลี้ยงวิญญาณ
Line : @horomagick
>> https://lin.ee/E6cTL1k
หมายเหตุ:
ข้อความและรูปภาพบนเว็บไซต์นี้ ห้ามนำไปใช้ซ้ำหรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต